เกิดเหตุเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าค้นพบผู้อพยพที่พยายามข้ามรั้วด่านตรวจระหว่างประเทศ โดยข้ามจากเมืองนาดอร์ไปยังเมลียาในประเทศโมร็อกโก มากกว่า 500 คน โดยในระหว่างการนายกได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นมีผู้ที่สามารถข้ามสำเร็จไปได้มากกว่า 130 คนและมีผู้เสียชีวิตกว่า 23 คนพบว่ามีการใช้คีมตัดเหล็กเพื่อตัดรั้วข้ามไปยังอีกฝั่ง โดยทางตำรวจผู้รับผิดชอบรายงานนี้รับทราบมาว่าเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มมาเฟียข้ามชาติและกระบวนการค้ามนุษย์ และมีการนำตัวผู้บาดเจ็บเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวเหตุการณ์นี้ได้รับทราบถึงกระทรวงการต่างประเทศโมร็อกโกโดยทางผู้อำนวยการได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นและยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มมาเฟียและผู้ค้ามนุษย์ข้ามชาติจริง
ความเห็นจากกระทรวงการต่างประเทศและแนวทางการปฏิบัติ
นอกจากนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศประจำประเทศโมร็อกโกยังเผยอีกว่าแนวทางการปฏิบัติที่ผ่านมาของทางประเทศได้ยึดหลักการตามการเคารพสิทธิมนุษยชนที่ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการไว้กับกรมสิทธิมนุษยชนนานาชาติและได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งมีผู้อพยพมากมายที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศโมร็อกโกได้รับสิทธิประโยชน์ในการรับการศึกษา และบริการสาธารณสุขต่าง ๆ ทัดเทียมกับประชาชนชาวโมร็อกโกเอง
และยังกล่าวต่อไปอีกว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศประจำโมร็อกโกปฏิบัติภายใต้การนำของพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮาเหม็ดที่หก ซึ่งยืนยันว่าทางประเทศโมร็อกโกมีการรับผิดชอบต่อผู้ลี้ภัยที่ต้องการความช่วยเหลือเข้ามายังประเทศโมร็อกโกตามหลักศีลธรรม และจริยธรรมที่ถูกต้องและปฏิบัติกับผู้ลี้ภัยเช่นเดียวกับปฏิบัติกับประชาชนชาวโมร็อกโกเองและยังคงต่อต้านการค้ามนุษย์ที่ผิดกฎหมายเพื่อนำมาเป็นแรงงานผิดกฎหมายจนเกิดเป็นปัญหาค่าจ้างแรงงานที่ต่ำเกินจริง
เพื่อเป็นการป้องกันขบวนการค้ามนุษย์ที่ทำการอย่างอุกอาจในครั้งนี้ ด้านนายกรัฐมนตรีสเปน นายเปโดร ซานเชธ ก็มีการออกมาสนับสนุนแนวทางดังกล่าวเพื่อใช้จัดการมาตรการการอพยพและลี้ภัย ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศโมร็อกโกได้ประกาศไว้และมีการสนับสนุนมาตรการนี้อย่างต่อเนื่องจากทางนายกรัฐมนตรีสเปนซึ่งในอนาคตอาจมีการปรับใช้มาตรการนี้ในอีกหลาย ๆ ประเทศเพื่อป้องกันและควบคุมการข้ามชายแดนที่ผิดกฎหมายรวมถึงป้องกันการค้ามนุษย์จากมาเฟียข้ามชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาค้ามนุษย์ที่ยืดเยื้อและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ยังไม่ได้รับการแก้ไข
เรียกได้ว่าปัญหาการค้ามนุษย์ในโมร็อกโกเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้แรงงานหรือการบังคับค้าประเวณีเด็กอย่างผิดกฎหมายภายในประเทศโดยถูกจับมาจากทางชนบทเพื่อแสวงหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์จากทั้งเด็กหญิงและเด็กชายรวมถึงผู้คนมากมายที่ถูกหลอกเพื่อมาหาอนาคตใหม่ในประเทศโมร็อกโก ซึ่งคนเหล่านี้ในท้ายที่สุดแล้วจะถูกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องของค่าจ้างและแรงงานที่ต้องทำเกินเวลาหรือต้องทำโดยไม่สมัครใจโดยเฉพาะในกลุ่มของเด็กผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยมีรายงานเรื่องนี้เข้ามาอย่างเป็นประจำ
มีผู้อพยพจำนวนมากที่เข้ามาจากทางทะเลทรายซาฮาร่าเพื่อเข้าสู่ประเทศโมร็อกโกเพื่อมองหาอนาคตที่ดีกว่าแต่ก็ยังไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชอย่างมาเฟียข้ามชาติผู้ค้าแรงงานอย่างผิดกฎหมายหรือใช้แรงงานจากเหล่าผู้อพยพผู้น่าสงสารในทางที่เอารัดเอาเปรียบ และยังมีผู้คนจำนวนมากที่ถูกหลอกเพื่อไปขายยาโดยไม่สมัครใจ จึงเห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและกินเวลามาเป็นเวลานานและทางโมร็อกโกก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ได้ทันท่วงทีหรือมาตรการที่ชัดเจนที่สามารถจัดการได้
สรุปข่าวค้ามนุษย์ข้ามชาติ และกฎหมายการคุ้มครอง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาประกาศถึงหลักการจัดการโดย ยึดหลักมนุษย์ศีลธรรมและจริยธรรมเพื่อหวังว่าจะช่วยลดจำนวนการลอบเข้ามาประเทศโมร็อกโกเพื่อค้าแรงงานผิดกฎหมายหรือกลายเป็นเหยื่อของเหล่ามาเฟียข้ามชาติ แต่อยากให้เข้ามาอย่างถูกกฎหมายเพื่อได้รับการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามที่มนุษยชนควรจะได้รับ เพราะฉะนั้นจึงเป็นแรงผลักดันให้มาตรการนี้ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ต่อเราพูดอพยพเองและเพื่อลดจำนวนการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นในประเทศโมร็อกโก